Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

ยูริ ศิลปินที่เชื่อว่า “รอยสัก” ไม่ใช่รอยเลอะเทอะบนผิว แต่คือศิลปะที่เกิดจากความตั้งใจ

กุล – กุลสตรี กิ่งโคกกรวด หรือชื่อที่รู้จักในวงการสักคือ ยูริ สไตล์งานสักของเธอคือ Blackwork โดยมีลายไพ่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลายคนอาจคุ้นหน้าเธอจากงานศิลปะสีน้ำมันที่มักปรากฏในกลุ่มประมูลงานศิลป์ ซึ่งมักได้รับความสนใจ พร้อมยอดไลก์และคอมเมนต์สูงลิ่วอยู่เสมอ
ด้วยรอยสักที่ดูดุดันและกินพื้นที่ผิวนอกร่มผ้าจำนวนไม่น้อย บวกกับความเป็นผู้หญิงวัย 27 ปี เราอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมาถึงวันนี้ และเธอมองลวดลายบนผิวหนังที่เรียกว่า ‘รอยสัก’ อย่างไร

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

รอยสัก = รอยเลอะเทอะ?

เราถามเธอว่า ตอนนี้ยังมีคนมองรอยสักในแง่ลบอะไรอยู่บ้าง
“ที่เราเคยเจอก็มีนะ บอกว่าคนมีรอยสักดูแรง น่ากลัว ทำธุรกิจสีเทาหรือเปล่า หรือไม่ก็คิดว่าบ้านมีปัญหา บางคนบอกว่ามันดูเลอะเทอะ ผิวเกลี้ยง ๆ ไปสักให้เสียทำไม ถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกเลย”
มีเหตุการณ์ที่เคยเจอกับตัวไหม?
“มีค่ะ ป้าข้างบ้านเคยมาบอกแม่ว่า ‘ปล่อยให้ลูกสักแบบนี้ ระวังหมดอนาคตนะ’ หรือญาติบางคนก็บอกว่า ‘คนอื่นเขาจะมองพ่อแม่เราไม่ดีนะ มันเข้าราชการไม่ได้นะ'”
“ผู้ชายบางคนก็คิดว่าเราง่าย แค่เพราะเรามีรอยสัก ซึ่งเราว่ามันไม่เกี่ยวกันเลย มันก็แค่สไตล์และความชอบของเรา”

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

ศิลปะที่เกิดจากความตั้งใจ

โบว์เล่าให้ฟังว่า การจะสร้างชุดคอสเพลย์หนึ่งชุด ต้องใช้แทบทุกศาสตร์ของศิลปะ
“อย่างเราทำชุดเอง ก็ต้องมีการแกะแบบ ดูว่าตัวละครมีผ้ากี่ชิ้น มีผ้าแบบไหนแบ้าง ต้องเข้าใจเรื่องผ้า ว่าผ้าแบบไหนถึงจะเหมือนต้นฉบับ สวย และใช้งานได้จริง ต้องวาดแบบ ตัด เย็บ แต่งหน้า เซ็ตวิก ทำพร็อพ ยิ่งลงสีนะ หืม อัปสกิลสุดๆไปเลย”

ครั้งแรกที่สักนอกร่มผ้า รู้สึกอย่างไร?
“กลัวค่ะ ยอมรับว่ากลัว เพราะมันลบไม่ได้ กลัวจะเปลี่ยนความคิดในอนาคตว่ามันไม่สวยอย่างที่คิด แล้วก็กลัวเรื่องงานด้วย กลัวว่าจะส่งผลต่ออนาคต”
อะไรทำให้เปลี่ยนความคิด?
“พอเราได้เป็นช่างสัก มันเปลี่ยนความคิดเราไปเลย พอได้ลงมือสักเอง ก็รู้สึกว่ารอยสักไม่ใช่รอยเลอะเทอะ แต่เป็นศิลปะที่เกิดจากความตั้งใจ ไม่ใช่ว่าจะสักอะไรก็ได้ มันต้องผ่านการคิด ออกแบบ ฝึกฝน”

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

แล้วต้องมีสกิลอะไรบ้างกว่าจะได้หนึ่งรอยสัก?
“อย่างแรกเลยคือเรื่องอุปกรณ์ มันไม่เหมือนดินสอหรือพู่กันที่เราคุ้นเคย ต้องเรียนรู้ใหม่หมด แล้วก็ต้องเข้าใจสภาพผิวลูกค้า ผิวแห้ง ผิวมัน สีผิว ล้วนมีผลต่อการลงน้ำหนักและความสวยงามทั้งหมด อีกเรื่องคือเราต้องรับมือกับพื้นผิวที่เคลื่อนไหวได้ เช่น ส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกาย ซึ่งต้องฝึกฝนจนเข้าใจถึงจะทำได้ดี”

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

“รอยสักสำหรับเราไม่ต่างจากศิลปะแบบอื่นเลย แค่เปลี่ยนจากการวาดบนกระดาษมาอยู่บนผิวหนังของคน”

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

ทุกร่องรอยบอกเล่าตัวตน

สำหรับยูริ รอยสักคืออะไร?
“มันเหมือนการเซฟโมเมนต์ในชีวิต หรือพูดอีกแบบก็คือ เป็นพื้นที่ที่รวมความเป็นเราไว้ ทั้งความชอบและเรื่องราว ถ้าไม่มีความหมายก็คงไม่เก็บไว้กับตัว”
“อย่างรอยสักที่มีความหมายกับเรา ก็จะเป็นรอยสักรูปแมวที่ตายไปแล้ว หรืออีกอันก็เป็นรอยสักรูปกบ อันนี้เป็นเพราะเรากลัวกบเราก็เลยสักเอาไว้เพื่อให้เราเลิกกลัว”
แล้วเคยเจองานลูกค้าเคสไหนที่ชอบบ้างไหม?
“มีเคสนึง ลูกค้าสักลายมือของแม่ที่เขียนในจดหมาย เป็นข้อความสุดท้ายที่แม่พูดกับเขาก่อนแม่จะเสีย เป็นงานที่เราประทับใจ และจำได้ไม่ลืมเลย”

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

ถ้าเกิดใหม่ก็คงเลือกแบบเดิม

นอกจากเป็นช่างสัก ยูริยังเป็นศิลปินสีน้ำมัน งานของเธอจัดจ้านทั้งสีสันและไอเดีย รวมถึงองค์ประกอบอย่างกะโหลก ความตาย และศาสนา ที่ชวนให้น่าตีความ เราให้โจทย์เธอวาดภาพในคอนเซ็ปต์ “ความรู้สึกที่มีต่อศิลปะรอยสัก” และนี่คือสิ่งที่เธอถ่ายทอดออกมา

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

“เป็นภาพหัวกะโหลก มีเครื่องสัก มีดอกไม้ และมีแสงสว่างที่แทนความรู้สึกดี ๆ ของเรา สื่อว่า ถึงวันนึงเราจะตาย แต่เราก็ยังมีความสุขที่ได้ทำสิ่งนี้ และไม่เคยเสียใจเลย ถ้าเกิดใหม่ก็ยังอยากทำแบบเดิม”

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ
Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

ในฐานะช่างสัก รู้สึกยังไงที่ได้วางลายเส้นลงบนผิวหนังของคนอื่น?
“ภูมิใจค่ะ ที่เขาไว้ใจให้พื้นที่ว่างที่มีจุดเดียวบนตัวตรงนั้นเป็นรอยสักของเรา มันเหมือนว่าเขาไม่ใช่แค่ชอบรอยสัก แต่เขาชอบในสไตล์และศิลปะของเรา”

ให้ศิลปะยืนยันความเป็นตัวเรา

อยากบอกอะไรกับคนที่ทำศิลปะแต่ยังไม่มีใครยอมรับ?
“ก็ไม่อยากให้ล้มเลิกไปก่อนค่ะ อยากให้ทำต่อไปเรื่อย ๆ ความยูนีคของเรามันอาจจะยากในช่วงแรกเพราะคนยังไม่เข้าใจ แต่ถ้าเราชัดเจนกับสิ่งที่เราเป็น และไม่ได้เปลี่ยนตัวเองไปตามเสียงรอบข้าง สุดท้ายคนจะเริ่มจำได้ว่าสิ่งนี้คือเรา”
“ถ้าเราไม่ชัดเจนในตัวเองมาตลอด วันนี้เราคงจะพลาดเรื่องอื่นๆในชีวิตไปด้วย…คงไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ” เวลาท้อยูริมีวิธีไหนที่ทำให้ฮึดสู้ต่อ?
“นึกถึงโมเมนต์เล็ก ๆ ของการได้ทำสิ่งที่เรารัก เช่น ตอนผสมสี หรือมีไอเดียลุกขึ้นมาวาดอะไรบางอย่าง ความรู้สึกนั้นมันมีพลังมากนะ เราเชื่อว่าทุกคนมีโมเมนต์แบบนั้นแน่นอน เวลาท้อ ค่อย ๆ ลองนึกถึงความรู้สึกเหล่านั้น”

Renaissance รอยสัก ไม่เท่ากับรอยเลอะ

Art for All

“ศิลปะเป็นภาษาของความรู้สึก ไม่มีผิดไม่มีถูก ไม่ต้องกลัวว่าใครจะไม่ชอบ หรือจะมองว่าแปลก เราเชื่อว่าสักวันจะมีคนที่ชอบแบบเดียวกับเรามาเจอกันเอง”
สำหรับแบรนด์ Renaissance เราเชื่อว่าศิลปะไม่จำเป็นต้องอยู่แค่บนผืนผ้าใบ แต่อาจอยู่บนร่างกาย หรือบนอะไรก็ตามที่เราชอบ และใส่ความตั้งใจลงไป เราเชื่อในพลังของศิลปะที่เปิดกว้าง ไม่ตัดสิน และเป็นของทุกคนที่มีใจรักที่จะทำมัน—Art for All.
เราหวังว่าเรื่องราวของคุณยูริจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครก็ตามที่กำลังเดินทางค้นหาพื้นที่ของตัวเองในโลกของศิลปะ และกล้าที่จะบอกเล่าความเป็นตัวตนผ่านสิ่งที่รัก ขอให้คุณได้เจอที่ที่คุณรู้สึกเป็นตัวเองอย่างแท้จริงในเร็ววัน